ดิ้นไม่หลุด! หมวกลุงพลตรงทำนายพระอาจารย์ เจอเข้าอีกทำมนตร์ดำเล่นคุณไสย์
โน้ท ก็สวัสดีค่ะท่านผู้ชมเรามารับฟังข่าวของน้องชมพู่ต่อกันนะคะอ่ะ [เพลง] [ปรบมือ] มีความคืบหน้าคดีของน้องจะพูดนะคะล่าสุดวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ทีมพูดขาวได้เดินทางมาพบกับในหนึ่งนามสมมุติชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่าตำรวจมาถามตัวหลายครั้งซึ่งตนตั้งข้อสังเกตเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องคุณไสยโดยใจความที่ตำรวจถามว่าในหมู่บ้านมีความเชื่อเรื่องคุณใสไหมเพราะตำรวจมาบอกว่าที่ศพของชมพูเหมือนว่าถูกกับเส้นผมไปส่วนหนึ่งซึ่งตำรวจถามว่าที่นี่นี่หากมีคนตายจะมีการตัดผมไหมผมก็บอกว่าไม่มีจะมีบางกลุ่มที่อัดมีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์
มีส่วนที่ป่าแห่งนี้ต้นไม่ทราบว่าบ้านไหนที่มีการทำเรื่องคุณไสยหรือไสยศาสตร์ตำรวจก็ถามว่าหากไม่มีเรื่องไสยศาสตร์จะตัดไปทำไมหรืออีกส่วนหนึ่งเส้นผมที่ถูกตัดอาจจะมีเรื่องดิน a อยู่ด้วย ค่ะสำหรับวันที่น้องชมพู่หายตัวไปวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 3 ต้นอยู่ที่บ้านโดยนอนอยู่ที่ใต้ถึงบ้านคนเดียวจะมีเพียงชาวบ้านชื่อใน L ซึ่งเข้ามาที่บ้านและบอกตนว่ามีเด็กหายให้ไปช่วยตามหาเวลาประมาณ 10:00 จากนั้นตนจึงออกไปตามหาในเวลา 11:00 ซึ่งไปหาไม่ไกลจากบ้านพอคิดว่าเด็กไปไม่ไก่ซึ่งตนก็หาอยู่ตลอดทุกวันแต่ไม่ได้ขึ้นไปที่ภูส่วนตัวตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยสัมผัสเรื่องอาถรรพณ์เจ้าป่าเจ้าเขาเลย
แม่พิมพ์พูดข่าวเดินทางมาพบกับนายเค็มนามสมมุติหมอทำเปิดเผยว่ากรณีเส้นผมน้องชมพูที่ได้ข้อมูลมาว่ามีการถูกตัดออกไปนั้นต้นหินภาพว่าคนที่ทำพยายามสะกดอะไรบางอย่างหรืออาจจะเป็นการสะกดวิญญาณไว้ไม่ให้ไปพูดกับใครซึ่งวิชาเช่นนี้ยังคงมีอยู่เพราะความเชื่อหลังการฆ่าคุณแล้วหากไม่กินเลือดคนตายหรือตัดเส้นผลตายมันมีความเชื่อว่าวิญญาณจะไม่ไปตามจองล้างจองผ่านคนที่กระทำขายกับเป็นการข่มขู่วิญญาณไม่ให้วิญญาณตามคนก่อฮิตไปต้นเชื่อว่าอาจจะเป็นเช่นนั้นคล้ายกับความเชื่อที่ว่าหากศพมีเลือดออกเอาน้ำมะนาวบีบใส่และดื่มเข้าไปวิญญาณจะไปพูดอะไรไม่ได้ซึ่งการทำแบบนี้เชื่อว่ากรรมที่คนร้ายก่อมันจะทำให้คนร้ายอยู่ไม่ได้และรับสภาพสารภาพเอง
และเมื่อวันก่อนสนนั่งสมาธิหินภาพคนคลานเข้ามาหาขณะที่ตนนั่งอยู่บนเถียงนาโดยมาสองคนคนหนึ่งผมใส่หมวกลายพรางมีภาพผิดหน้าเสร็จเสื้อสีดำอีกคนเป็นคนอวบเสื้อสีส้มต่างๆใส่หมวกไอ้โม่งนั่งหมอบคุกเข่ามารับสารภาพกับตนโดยเรียกตนว่าอาจารย์และคนพร้อมเป็นคนเก่าว่ายอมแล้วจะไม่ทำอีกแล้วซึ่งตนพยายามถามคนร้ายต่อว่าจะทำแบบนี้อีกไหมคนร้ายเขาบอกว่าไม่ทำซึ่งตนไม่เห็นหน้าเพราะทั้งคู่ก้มหน้าและยังมีหมวกปิดหน้าไว้ตอนนี้คนร้ายกำลังร้อนรุ่มไปไหนไม่ได้ถือว่าเป็นตนมีวิชาทางด้านไสยศาสตร์แต่ไม่ถึงเก่งไม่เป็นอันตราย เหมาะสำหรับคุณร้ายไม่ได้มาในเชิงคุณครูและยังบอกต่อว่าผมจะเข้ามอบตัวแล้วที่ทำลงไปเพราะความเค้นแต่ไม่ได้ตั้งใจลงกับเด็กตอนแรกเราจะทำร้ายผู้ใหญ่แต่เราไม่ไหวจึงไปลงกับเด็กจากนั้นทั้งคู่ก็หายไปในนิมิตตนยังเห็นอาจารย์ของคนร้ายเป็นชายของประคำ
3 เส้นซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นใครอาจารย์ของคนร้ายก็พยายามกล่อมให้มอบตัวอยู่ส่วนเรื่องเสื้อไม่ได้วี่แววอะไรเลยไม่รู้ถูกเผาหรือถูกทำลายหรือไม่ส่วนที่ไม่เจอในจิตบันตามที่ตนบอกไว้ตอนแรกเพราะคนร้ายน่าจะนำเสื้อไปทำลายแล้วทำให้ตนไม่เห็นในนิมิตเช่นเดิม ครัวลุงชัยพลลุงของชมพูอย่างระบุว่าเรื่องการตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากคำทำนายเกี่ยวกับหมวกคาวบอยตนได้มาจากการไปทัศนศึกษาที่จังหวัดร้อยเอ็ดตอนนั้นตนเรียนกศนอออยู่จำช่วงปีไม่ได้น่าจะเป็นปี 57 ถึง 5 9 ซึ่งมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันทำรุ่นไว้ต้นประกาศหาแล้วแต่หาเจ้าของไม่เจอจึงเก็บกลับมาส่วนหมวกคาวบอยที่บ้านเคยมี
2 ใบใบหนึ่งขัดไปแล้วเป็นของชะบานส่วนอีกใบหนึ่งคือใบที่สวมใส่อยู่ประจำส่วนหมวกแบบนี้ไม่ได้มีแค่บ้านตนแต่ให้ระบุว่าใครก็ตอบไม่ได้ เหรียญพระอธิการบุญมาขอยืนยันเป็นพยานว่าลุงชัยพลไม่ได้เป็นคนฆ่าโดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าในชัยพลเข้ามาที่วัดเพื่อรับพารูปหนึ่งที่วัดจริงโดยมีการนัดหมายกันก่อน 1 วันว่าจะให้ไปส่งครูบารัตซึ่งเป็นพระที่วัดแต่มีโยมนิมนต์ให้ไปอยู่ที่วัดในพื้นที่อำเภอหนองสูงจังหวัดมุกดาหารพระอธิการบุญมาระบุว่านายชัยพลมาที่วัดจริงโดยนัดหมายมาก่อนเดินทางช่วงหลัง 09:00 นแต่ไม่เกิน 12:00 นด้วยอาตมาจำไม่ได้เนี่ยชัดว่าเข้ามากี่โมง
แต่เมื่อมาถึงก็เข้าใส่ด้วยท่าทางปกติไม่ได้มีเหงื่อหรือดูเหนื่อยอะไรซึ่งก่อนจะถึงเวลานัดหมายช่วงเวลา 6:00 นจนก็ยังเจอนายชัยพลและนางสมพรป้าของชมพู่อยู่ เหรียญหลวงพ่อยังบอกต่อว่าจริงแล้วอาตมาติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้ไปส่งพระก่อนแต่ผู้ใหญ่บ้านไม่ว่างจึงไปติดต่อนายใช่พลหลังจากนายชัยพลมาที่วัดขับรถกระบะมาคนเดียวก็คุณของช่วงพักขึ้นรถออกเดินทางไปจากนั้นก็ไม่เห็นกลับมาอีกทั้งนี้อาตมาค่อนข้างมั่นใจว่านายใช่พลไม่ใช่คนร้ายเพราะมาช่วยงานวัดอยู่ประจำรู้จักนิสัยใจคอกันอยู่ส่วนวัดที่อำเภอหนองสูงที่ประสงค์ครูบารัทต้องใช้เวลาไปกับอย่างน้อยกว่า
2-3 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ดีนายชัยพลบอกว่าต้นไปถึงวัดน่าจะช่วงเวลา 10 นาฬิกาซึ่งตนยังไม่ทราบว่าน้องชมพู่หายไปโดยตนมาทราบหลังจากรับภาษิตและขับรถกลับลงมาที่บ้านแม่ถอนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับปากซอยบ้านน้องชมพูเมื่อมาถึงข้อสอบถามหาภรรยาของตนเองว่าไปไหนเมตรส่วนก็บอกว่าว่าเห็นขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในบ้านน้องชมพูเมื่อภรรยาขับรถมาที่บ้านแม่ถอนก็บอกว่าชมพู่หายไปหาไม่เจอไม่รู้ว่าไปไหนซึ่งตอนนั้นตนก็คิดว่าน้องคงไม่หายไปไหนไก่ประกอบกับต้องไปส่งผ้าตามนัดจึงให้ภรรยาขึ้นรถและเดินทางไปส่งซึ่งมีคนเดินทางไป 5 คนส่วนตัวตนนั้นหากไม่ได้ไปรับพระต้นคงออกไปตามหาช่วยแต่ขนาดนั้นรับผ้ามาแล้วพักก็นั่งในรถแล้ว
อ้างจากนั้นพวกตนก็ขับรถมุ่งหน้าไปส่งพระก่อนจะให้ภรรยาโทรศัพท์หาแม่น้องชมพู่โดยใช้โทรศัพท์แม่ถอนซึ่งแม่น้องชมพู่ก็บอกว่ากำลังกลับบ้านหลังจากส่งพระเสร็จตนก็กลับมาที่หมู่บ้านประมาณ 14:00 นเมื่อมาถึงหมู่บ้านตอนนั้นเริ่มหินชาวบ้านเดินตามถนนมีรถจอดหน้าบ้านแม่ทอนพอสมควรส่วนตัวใจคอไม่ค่อยดีซึ่งระหว่างทางกลับบ้านตนได้โทรศัพท์สอบถามแม่ของน้องชมพู่เพื่อสอบถามว่าเจอน้องหรือยังจากนั้นระหว่างทางมีฟ้าร้องฝนจะตกทำให้ปิดโทรศัพท์กันหมด หลังจากนั้นว่าถึงบ้านไม่ท้นภรรยาตนก็เดินไปที่บ้านน้องชมพูตุ่นล็อครถเสร็จก็ตามไปด้วยจากนั้นตนก็ออกตามหาหลานทันทีโดยมุ่งหน้าไปทางฝั่งขวามือเดินรถตามชายตาส่วนของชาวบ้านวันนั้นยังไม่ได้ขึ้นเขาวันนั้นค้นหาราวหนึ่งชั่วโมงจากนั้นก็เดินวนกลับมาที่บ้านตนก่อนจะมาเจอพารูปหนึ่งซึ่งทักว่าให้ต้นไปดูที่บ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านกกตูมที่บ้านอยู่ข้างห้วยซึ่งเป็นก็เลยไปดูโดยบ้านหลังดังกล่าวที่คือก็คือบ้านคนชื่อนิ่มต้นออกไปพร้อมกับเม็ดหอนกับภรรยาจากนั้นก็ไปบ้านกกตูมแต่ไปถึงก็ยังไม่มีใครอยู่ที่บ้านนิ่มและไม่พบกับน้องชมพู่ทั้งนี้ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ต้นรักน้องเหมือนลูกต้นไม่มีทางที่จะไปทำร้ายแน่นอนส่วนเรื่องคนร้ายตนนึกไม่ออกหากมองเป็นญาติพี่น้องยิ่งนึกไม่ออก
00:09:26 บ่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันขนาดที่จะทำร้ายกันเรื่อย และมาต่อที่เคยกาฬสินธุ์ตามคำทนายของภาคอื่นชัยธัมมวิจะอยู่เจ้าอาวาสวัดถ้ำจานครูหินต่างจังหวัดมุกดาหารและได้พบกับนายลีนำสมมติอายุ 74 ปีชาวบ้านที่มาเป็นเขยของบ้านกกกอกซึ่งบ้านในลีห่างจากบ้านหนองชมพู่ประมาณ 400 เมตรใน RE เปิดใจกับพูดข่าวว่าต้นติดตามข่าวเป็นอยู่ประจำในหมู่บ้านก็มีต้นที่เป็นเคยกาฬสินธุ์ซึ่งตนเดินทางมาจากอำเภอเขาวงจังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งแต่ปี 2519 ตอนนั้นก็เดินเท้ามาและได้มาได้มามีภรรยาอยู่ที่บ้านกุ๊กออกก็อาศัยอยู่ที่บ้านกกกอกๆประมาณ 44 ปีแล้วปัจจุบันก็กลับกาฬสินธุ์บ้างเพราะต้องกลับไปเยี่ยมพี่สาวอายุ
00:10:19 94 ปีที่ป่วยอู่ เหมาะสำหรับคำทำนายของพระเด่นชัยต้นก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมดแม้ตนจะเป็นคนกาฬสินธุ์ก็ตามแต่ตนแก่ปูนนี้แล้วจะมีเรี่ยวแรงไปปีนเขาได้อย่างไรแค่เดือนไปตัดหญ้าทำส่วนอย่างต้นก็รู้สึกเหนื่อยหอบแล้วและตนก็ไม่รู้จะทำกับน้องชมพู่ไปเพื่ออะไรเพราะตนไม่ได้ซื้อ 1 ขนมและบ้านก็ไม่ได้อยู่ติดกันด้วยด้านความเชื่อที่พระมาทำนายต้นก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมดพอคิดว่าหมอดูคู่กับหมอเดาก็คงเดากันไปเท่านั้นซึ่งตนยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำทำนายแน่นอนต้นไม่ได้ทำอะไรนอกจากอยู่บ้านนอกจากนี้ประเด็นที่หลายๆคนหลายๆหมอดูทักว่าคนร้ายอาจจะนำเด็กไปทำพิธีพิธีกรรมด้านไสยศาสตร์ยิงไม่ตรงกับตนเพราะตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์หรือมนต์ดำสำหรับตอนนี้ตนเท่ไม่ได้คิดอะไรเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและตนแก่มากแล้ว
00:11:22 อาเจ๊ต้นไปปีนเขาต้นก็คงทำไม่ได้แล้วหากเป็นสมัยหนุ่มๆถ้าสงสัยตามหมอดูบอกตนไม่ว่าอะไรแต่ตอนนี้ตนเดินก็เหนื่อยจนจะมีแรงไปอุ้มเด็กขึ้นเขาสูงขนาดนั้นได้อย่างไรอ่ะ
